อสังหาฯ ปี 63 ยอดขายติดลบกว่า 25%
13 พ.ค. 2563

เตือนผู้ประกอบการอย่าริบเงินดาวน์ เสียลูกค้า
“อธิป พีชานนท์” ชี้ตลาด อสังหาฯปี 63 ตกหลุมอากาศ ยอดขายติดลบมากกว่า 25% พิษโควิดฉุดคอนโดยอดขายร่วงกว่า 40% แนวราบติดลบ 5-10% แนะ ดีเวลลอปเปอร์รักษาลูกค้าเก่า ไม่ควรริบเงินดาวน์เพื่อให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่อง
นายอธิป พีชานนท์ ประธาน คณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้ม ปี 2563 ตลาดอสังหาฯยอดขายติดลบมากกว่า25%โดยยอดขายใหม่คอนโดมิเนียมชะลอตัวชัดเจนเมื่อเทียบกับแนวราบพบว่า ปัจจุบันมียอดขายลดลงกว่า 40% ทั้งจากผู้ซื้อ เพื่ออยู่อาศัยและกลุ่มซื้อเพื่อปล่อยเช่าจากเดิม ที่พึ่งพากลุ่มลูกค้าจีนและต่างชาติ 10 %แต่ดีมานด์ส่วนนี้หายไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่ตลาดแนวราบ(บ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว)โดยเฉพาะโครงการบ้านที่สร้างเสร็จกลับเริ่มมีคนสนใจซื้อ มากขึ้นซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ โดยพบว่า ยอดขายบ้านจัดสรรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และภูมิภาคบางพื้นที่ตัวเลขสูงขึ้นคาดว่าปีนี้ตลาดแนวราบติดลบ 5-10% “คนที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงยังมีอยู่ ยิ่งพอเกิดโควิดทำให้คนต้องทำงานที่บ้าน หลายเจเนอเรชันต้องอยู่ร่วมกัน ทำให้เกิดความต้องการมีที่อยู่อาศัยเพื่อแยกเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้นจากเดิมที่อาจไม่เคยรู้สึกมาก่อน เพราะทุกคนต้องการความเป็นส่วนตัวการอยู่คอนโดจึงอาจไม่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้านของคนบางคน” นายอธิป กล่าว
สำหรับยอดโอนกรรมสิทธิ์พลว่าชะลอตัว ในช่วงนี้ เนื่องจากประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันจึงผลกระทบ ต่อการตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ประกอบกับธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ที่เข้มงวดมากกว่าปกติ และปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันอัตราปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงถึง 40% ซึ่งเป็นระดับที่สูงมาก ซึ่ง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงผู้ที่ทำอาชีพอิสระ จะเป็นกลุ่มแรกที่ธนาคารพาณิชย์จะปฏิเสธการให้สินเชื่อและพิจารณาเข้มงวดมาก ซึ่งส่งผลต่อการโอนกรรมสิทธิ์ที่ชะลอตัว
นายอธิป กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ เป็นเวลาที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่เอาแต่ ผลประโยชน์ด้วยการริบเงินดาวน์ หลังจากที่ลูกค้าผ่อนมาแล้ว 10-20% เพื่อที่ขายคนใหม่ในราคาสูงขึ้น หรือได้เงินดาวน์มาแล้วทำให้ปรับราคาได้เพิ่มขึ้นวิธีการแบบนี้ ไม่ควรทำ เพราะว่าเป็นการเอาเปรียบลูกค้าเกินไปไม่ควรฉวยโอกาส
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้ตลาดคอนโดจะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยรอบด้านจนฉุดยอดขายลดลงกว่า 40% แต่ตลาดคอนโดยังไม่ถึงขั้นไร้อนาคตหรือเป็นดาวร่วง (Sunset)แค่อยู่ในภาวะตกหลุมอากาศเหมือนกับตลาดหุ้นแต่ใช้เวลานานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่า หลุมจะยาว มากน้อยแค่ไหน
“จากประสบการณ์คาดการณ์ว่า ไตรมาส 2 ในปี 2564 ภาพรวมตลาดอสังหาฯ จะเริ่มฟื้นตัว บนสมมติฐานที่ว่าทั่วโลก สามารถที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด ได้ ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่งหรือทวีปใดทวีปหนึ่ง ยกเว้นว่า ถ้าเกิด เหตุการณ์ระบาดระลอกสองขึ้นมา ธุรกิจที่โดนกระทบอันดับแรกกลุ่มเอสเอ็มอี ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว บอกได้เลยเตรียมตอกฝาโลงกันเลยทีเดียว”
ตลาดคอนโดยังไม่ถึงขั้นไร้อนาคตหรือเป็นดาวร่วงแค่อยู่ในภาวะตกหลุมอากาศเหมือนกับตลาดหุ้นแต่ใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าหลุมจะยาวมากน้อยแค่ไหน
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ – 9 พฤษภาคม 2563
“อธิป พีชานนท์” ชี้ตลาด อสังหาฯปี 63 ตกหลุมอากาศ ยอดขายติดลบมากกว่า 25% พิษโควิดฉุดคอนโดยอดขายร่วงกว่า 40% แนวราบติดลบ 5-10% แนะ ดีเวลลอปเปอร์รักษาลูกค้าเก่า ไม่ควรริบเงินดาวน์เพื่อให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่อง
นายอธิป พีชานนท์ ประธาน คณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้ม ปี 2563 ตลาดอสังหาฯยอดขายติดลบมากกว่า25%โดยยอดขายใหม่คอนโดมิเนียมชะลอตัวชัดเจนเมื่อเทียบกับแนวราบพบว่า ปัจจุบันมียอดขายลดลงกว่า 40% ทั้งจากผู้ซื้อ เพื่ออยู่อาศัยและกลุ่มซื้อเพื่อปล่อยเช่าจากเดิม ที่พึ่งพากลุ่มลูกค้าจีนและต่างชาติ 10 %แต่ดีมานด์ส่วนนี้หายไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่ตลาดแนวราบ(บ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว)โดยเฉพาะโครงการบ้านที่สร้างเสร็จกลับเริ่มมีคนสนใจซื้อ มากขึ้นซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ โดยพบว่า ยอดขายบ้านจัดสรรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และภูมิภาคบางพื้นที่ตัวเลขสูงขึ้นคาดว่าปีนี้ตลาดแนวราบติดลบ 5-10% “คนที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงยังมีอยู่ ยิ่งพอเกิดโควิดทำให้คนต้องทำงานที่บ้าน หลายเจเนอเรชันต้องอยู่ร่วมกัน ทำให้เกิดความต้องการมีที่อยู่อาศัยเพื่อแยกเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้นจากเดิมที่อาจไม่เคยรู้สึกมาก่อน เพราะทุกคนต้องการความเป็นส่วนตัวการอยู่คอนโดจึงอาจไม่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้านของคนบางคน” นายอธิป กล่าว
สำหรับยอดโอนกรรมสิทธิ์พลว่าชะลอตัว ในช่วงนี้ เนื่องจากประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันจึงผลกระทบ ต่อการตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ประกอบกับธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ที่เข้มงวดมากกว่าปกติ และปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันอัตราปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงถึง 40% ซึ่งเป็นระดับที่สูงมาก ซึ่ง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงผู้ที่ทำอาชีพอิสระ จะเป็นกลุ่มแรกที่ธนาคารพาณิชย์จะปฏิเสธการให้สินเชื่อและพิจารณาเข้มงวดมาก ซึ่งส่งผลต่อการโอนกรรมสิทธิ์ที่ชะลอตัว
นายอธิป กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ เป็นเวลาที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่เอาแต่ ผลประโยชน์ด้วยการริบเงินดาวน์ หลังจากที่ลูกค้าผ่อนมาแล้ว 10-20% เพื่อที่ขายคนใหม่ในราคาสูงขึ้น หรือได้เงินดาวน์มาแล้วทำให้ปรับราคาได้เพิ่มขึ้นวิธีการแบบนี้ ไม่ควรทำ เพราะว่าเป็นการเอาเปรียบลูกค้าเกินไปไม่ควรฉวยโอกาส
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้ตลาดคอนโดจะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยรอบด้านจนฉุดยอดขายลดลงกว่า 40% แต่ตลาดคอนโดยังไม่ถึงขั้นไร้อนาคตหรือเป็นดาวร่วง (Sunset)แค่อยู่ในภาวะตกหลุมอากาศเหมือนกับตลาดหุ้นแต่ใช้เวลานานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่า หลุมจะยาว มากน้อยแค่ไหน
“จากประสบการณ์คาดการณ์ว่า ไตรมาส 2 ในปี 2564 ภาพรวมตลาดอสังหาฯ จะเริ่มฟื้นตัว บนสมมติฐานที่ว่าทั่วโลก สามารถที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด ได้ ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่งหรือทวีปใดทวีปหนึ่ง ยกเว้นว่า ถ้าเกิด เหตุการณ์ระบาดระลอกสองขึ้นมา ธุรกิจที่โดนกระทบอันดับแรกกลุ่มเอสเอ็มอี ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว บอกได้เลยเตรียมตอกฝาโลงกันเลยทีเดียว”
ตลาดคอนโดยังไม่ถึงขั้นไร้อนาคตหรือเป็นดาวร่วงแค่อยู่ในภาวะตกหลุมอากาศเหมือนกับตลาดหุ้นแต่ใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าหลุมจะยาวมากน้อยแค่ไหน
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ – 9 พฤษภาคม 2563