บทความ | การสร้างความยืดหยุ่น

การรับรองอาคาร อนาคตของความเป็นอยู่ที่ดีและความยั่งยืน

03 ตุลาคม 2565

การรับรองอาคาร และอนาคตของความเป็นอยู่ที่ดีและความยั่งยืน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในมุมมองด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมถึงระบบการรับรองอาคารเขียว เช่น มาตราฐาน LEED และ มาตราฐาน WELL ที่ได้มีส่วนช่วยนำเข้าสู่การปฏิวัติ แน่นอนว่าเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในช่วง COVID-19 อาจเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึง  เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่สาธารณสุขเป็นเรื่องระดับต้น ๆ ในชีวิตของเรา การเริ่มต้นการทำงานทางไกลอย่างกะทันหันเนื่องจากไวรัสที่สามารถแพร่เชื้อได้สูงหมายความว่าบริษัทต่าง ๆ ถูกบังคับให้นึกถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทำงานในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แต่องค์กรต่าง ๆ ก็มีความตระหนักมากขึ้นเช่นกันว่าอาคารที่พนักงานทำงานอยู่เหล่านั้นส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ซึ่งมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของบุคคลทั่วไปต่อองค์กร พอ ๆ กับความต้องการดึงดูดคนรุ่นใหม่ซึ่งมีความรอบรู้เป็นอย่างดีถึงอันตรายของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและตระหนักถึงความรับผิดชอบทางศีลธรรมของธุรกิจในการต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้ การพิจารณาเพื่อการตัดสินใจที่มากขึ้นว่าพวกเขาจะทำงานที่ไหนโดยคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดที่กล่าวมาจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท เมื่อได้รับทางเลือก เกือบทุกคนจะทำงานให้กับองค์กรที่คำนึงถึงพนักงานและสิ่งแวดล้อม

บทบาทของการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว


ความสำคัญของประเด็นข้างต้นส่งผลให้มีความต้องการมาตรฐานในอุตสาหกรรมก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงพอที่องค์กรเพียงแค่ประกาศว่าอาคารของพวกเขาเป็นอาคารเขียว พวกเขาจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการได้รับการรับรองต่อสาธารณะด้วย มาตรฐานเหล่านี้อยู่ในรูปแบบของการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับที่เราคาดหวังให้เป็นไปตามมาตรฐานบางอย่างในอุตสาหกรรมการธนาคารหรือการผลิตอาหารของเรา การรับรองอาคารถือเป็นการรับประกันคุณภาพและความสม่ำเสมอ 
 
การรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด 2 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐาน LEED และ WELL ซึ่งระบบการรับรองเหล่านี้จะเน้นการประเมินประสิทธิภาพของอาคารอย่างเป็นกลางในแง่ของสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีและความยั่งยืน อาคารดำเนินการสอดคล้องตามมาตรฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง (มาตรฐาน LEED หรือ WELL) จะได้รับใบรับรองสำหรับการดำเนินการดังกล่าว ความเป็นอิสระดังกล่าวให้การรับรองแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย 

การรับรองมาตรฐานอาคารประเภทต่าง ๆ


ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น การรับรองมาตรฐานอาคาร LEED และ WELL ถือว่าเป็นการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว 2 มาตรฐานหลักในอุตสาหกรรมปัจจุบัน แม้ว่าการรับรองทั้งสองจะเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนและการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนที่อาศัยและทำงานในอาคารอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการที่ต้องชี้ให้เห็น โดยสามารถทราบได้จากในรายละเอียดด้านล่างนี้

การรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวของ LEED


มาตรฐาน LEED เป็นระบบการรับรองอาคารสีเขียวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ตามชื่อของมาตรฐาน "LEED" จะเน้นความเป็นผู้นำในการออกแบบพลังงานและสิ่งแวดล้อม ระบบการให้คะแนน LEED เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอาคารเป็นหลัก

การรับรองมาตราฐาน LEED มีทั้งหมด 4 ระดับ ได้แก่ Certified, Silver, Gold และ Platinum เพื่อให้ได้รับ ระดับ Platinum (ระดับสูงสุด) โครงการต้องผ่านการประเมินประสิทธิภาพชั้นนำระดับโลกในด้านต่าง ๆ เช่น carbon footprint, ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน, การจัดการน้ำและของเสีย, ความยั่งยืนของวัสดุที่ใช้ในระหว่างการก่อสร้าง และคุณภาพของสภาพแวดล้อมภายในอาคาร   อย่างไรก็ตาม การได้รับใบรับรอง LEED ไม่ใช่จุดจบของเรื่องราว โครงการใด ๆ ที่ได้รับใบรับรอง LEED สามารถคาดหวังที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายจากการที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนด้านพลังงานที่ต่ำลง การมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพสำหรับผู้ที่อาศัยและทำงานที่นั่น ในอนาคต การรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว เช่น LEED จะมีบทบาทสำคัญในองค์กรที่ปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
 

มาตรฐานอาคารเขียวของ WELL


มาตรฐานอาคารของ LEED มุ่งเน้นไปที่สิ่งแวดล้อมโดยทั่วไป ซึ่งแตกต่างจากมาตรฐานอาคารของ WELL ซึ่งเกี่ยวข้องกับภายในอาคารที่ส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนที่อาศัยอยู่ ทำงาน และใช้งานอาคารเหล่านั้นอย่างไร ระบบการรับรองมาตราฐาน WELL ได้รับการจัดการโดยองค์กรที่ชื่อ International WELL Building Institute (IWBI) ซึ่งประกาศภารกิจคือการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นเพื่อผู้คนที่อาศัยอยู่ และทำงานในอาคาร

ในการบริหารตามการรับรองมาตราฐาน WELL จะได้ใช้แนวคิดเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนด้วยวิธีที่อิงตามหลักฐาน สำหรับโครงการที่จะได้รับการรับรองมาตราฐาน WELL นั้นจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่เข้มงวดใน 7 หมวดหมู่หลัก: อากาศ น้ำ อาหารบำรุง แสง ฟิตเนส ความสบาย และจิตใจ แน่นอนว่าหมวดหมู่เหล่านี้มีความครอบคลุม โดยในทางปฏิบัติ โครงการต้องมีการจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ เช่น การกรองอากาศ คุณภาพน้ำ ระดับแสงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ความสะอาด และทำให้แน่ใจว่าผู้คนภายในอาคาร สัมผัสกับระดับความสะดวกสบายที่ประเมินอย่างเป็นกลาง ซึ่งถ้าหากจะบอกว่าคนเป็นทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขององค์กร ในกรณีนี้มาตรฐาน WELL จะรับรองได้ว่าองค์กรดังกล่าวสามารถดึงดูด รักษา และปกป้องทรัพยากรนั้นได้

CBRE สามารถช่วยให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน LEED และ WELL ได้อย่างไร


CBRE สามารถช่วยให้คุณดำเนินการได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนไปสู่เป้าหมายในอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและความยั่งยืนของเราที่พร้อมจะให้คำแนะนำตลอดกระบวนการสำหรับการออกแบบสถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขภาพและอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการขอการรับรองตามมาตรฐาน LEED และ WELL กรุณาติดต่อ CBRE