บล็อก

การรับรองมาตรฐานอาคาร WiredScore และ SmartScore

30 เมษายน 2567

building-cer-wiredscore-smartscore-720x480-972x1296

เทคโนโลยีในยุคสมัยปัจจุบันกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับความตระหนักรู้ถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่การรับรองมาตรฐานอาคารได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ การรับรองมาตรฐานอาคารไม่เพียงแต่บ่งชี้ว่าอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีที่ทันสมัยและโครงสร้างพื้นฐานเชิงดิจิทัลเป็นองค์ประกอบสำคัญของอาคารสมัยใหม่อีกด้วย

ในบรรดาระบบรับรองมาตรฐานอาคารที่มีอยู่มากมาย มีอยู่สองระบบที่สร้างแรงกระเพื่อมแก่วงการอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ได้แก่มาตรฐาน WiredScore และ SmartScore  โดยระบบรับรองมาตรฐานทั้งสองจะประเมินคุณภาพของอาคารจากการเชื่อมโยงทางดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกให้แก่เจ้าของอาคาร ผู้เช่า รวมไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ในฐานะผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซีบีอาร์อีประเทศไทยพร้อมที่จะช่วยให้อสังหาริมทรัพย์ของคุณได้รับการรับรองมาตรฐานเหล่านี้

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบรับรองมาตรฐาน WiredScore และ SmartScore รวมถึงหาคำตอบว่า ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จะสามารถสนับสนุนคุณในทุก ๆ ขั้นตอนได้อย่างไรในบทความนี้

มาตราฐานอาคาร WiredScore คืออะไร

WiredScore คือระบบรับรองมาตรฐานอาคารที่ประเมินคุณภาพอาคารจากความสามารถในการเชื่อมโยงดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี WiredScore เป็นมาตรฐานการรับรองอาคารซึ่งเป็นเลิศด้านการเชื่อมโยงดิจิทัลทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเนื่องด้วยหลักเกณฑ์การประเมินที่ถูกออกแบบมาเพื่อยืนยันว่าอาคารนั้นมีระบบอินเตอร์เน็ตที่เสถียร

WiredScore ใช้วิธีประเมินมาตรฐานอาคารที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอาคารแต่ละประเภท โดยเกณฑ์สำหรับการประเมินอาคารสำนักงานได้แก่ความสามารถในการเชื่อมต่อ (Connectivity) โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ความพร้อม (Readiness) และ นวัตกรรม (Innovation)
หลักเกณฑ์ด้านความสามารถในการเชื่อมโยงจะพิจารณาถึงคุณภาพและจำนวนของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในอาคารนั้น ๆ ในขณะที่หลักเกณฑ์ด้านโครงสร้างพื้นฐานจะตรวจสอบองค์ประกอบด้านกายภาพภายในอาคารอย่างวิธีการเดินสายไฟและพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคม ส่วนหลักเกณฑ์ด้านความพร้อมจะวัดความเตรียมพร้อมของตัวอาคารในกรณีที่การบริการต้องหยุดชะงัก และหลักเกณฑ์ด้านนวัตกรรมจะวิเคราะห์ศักยภาพในการปรับตัวให้เข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคตของตัวอาคาร

สำหรับโครงการและอาคารที่อยู่อาศัย WiredScore จะใช้ชุดเกณฑ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งโดยเกณฑ์ดังกล่าวประกอบไปด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายถึงตัวอาคาร (Network to Building) โครงสร้างพื้นฐานของอาคาร (Building Infrastructure) ที่พักอาศัยและการบริการ (Residence and Services) รวมไปถึงนวัตกรรม (Innovation)

เกณฑ์การเชื่อมโยงเครือข่ายถึงตัวอาคารนั้นใช้เพื่อพิจารณาว่า ตัวอาคารมีการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบใด เกณฑ์ด้านโครงสร้างพื้นฐานนั้นจะประเมินว่า โครงสร้างทางกายภาพของตัวอาคารนั้น ๆ สนับสนุนความเชื่อมโยงดิจิทัลอย่างไร ส่วนเกณฑ์ด้านที่พักอาศัยและการบริการจะตรวจสอบว่า อาคารที่พักอาศัยในโครงการแต่ละหลังสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลที่เพียงพอต่อผู้อยู่อาศัยหรือไม่ และเกณฑ์ด้านนวัตกรรมจะวิเคราะห์ว่า อาคารดังกล่าวมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและพร้อมสำหรับการพัฒนาเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคตหรือไม่

หลักเกณฑ์เหล่านี้ทำให้ทั้งอาคารสำนักงานและอาคารพักอาศัยได้รับการประเมินอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้ได้มาซึ่งการรับรองมาตรฐานอาคารที่เกี่ยวข้อง ตามความต้องการและสิ่งที่โครงการมอบให้โดยเฉพาะ อีกทั้งยังเป็นหลักประกันว่า อาคารสำนักงานและอาคารพักอาศัยซึ่งได้รับการรับรองโดย WiredScore เพียบพร้อมต่อการตอบสนองความต้องการด้านดิจิทัลของผู้อาศัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ข้อดีของการได้รับการรับรองโดย WiredScore นั้นมีอยู่มากมาย หนึ่งในข้อดีเหล่านั้นคือการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้แก่ตัวอาคาร ในยุคสมัยที่ความเชื่อมโยงดิจิทัลสำคัญพอ ๆ กับไฟฟ้าและน้ำประปา มาตรฐาน WiredScore บ่งชี้ว่าอาคารมีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นจุดขายหลักสำหรับผู้เช่าในอนาคต อีกทั้งยังช่วยขจัดความกังวลใจของผู้อาศัยปัจจุบันเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีเสถียรภาพและพื้นที่อับสัญญาณภายในตัวอาคาร ไม่เพียงเท่านั้น WiredScore ยังช่วยเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์สำหรับการลงทุนระยะยาวและป้องกันไม่ให้อสังหาริมทรัพย์ของคุณล้าสมัยอีกด้วย

ทีมผู้เชี่ยวชาญของซีบีอาร์อี ประเทศไทย สามารถให้คำแนะนำคุณได้ในทุก ๆ ขั้นตอนการเพิ่มประสิทธิภาพความเชื่อมโยงดิจิทัลของอาคารของคุณเพื่อให้คุณมั่นใจว่า อาคารของคุณจะมีคุณสมบัติเกินพอสำหรับเกณฑ์การรับรองมาตรฐาน WiredScore

building-cer-wiredscore-smartscore-720x480

มาตรฐานอาคาร SmartScore คืออะไร

ในขณะที่ระบบรับรองมาตรฐาน WiredScore ให้ความสำคัญกับตัวอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน ระบบรับรองมาตรฐาน SmartScore จะให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน โดยหลักเกณฑ์ในการประเมินสามารถแบ่งออกได้เป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ ฟังก์ชันสำหรับผู้ใช้งาน (User Functionality: UF) และโครงสร้างเชิงเทคโนโลยี (Technological Foundations: TF)

หลักเกณฑ์ในส่วนของฟังก์ชันสำหรับผู้ใช้งานจะประเมินความสามารถของตัวอาคารในการส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีตามที่ผู้ใช้งานคาดหวังตัวอย่างเช่นระบบการเข้าพื้นที่อาคารและการนำทางโดยตั้งเป้าเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางแบบไร้รอยต่อตั้งแต่ประตูทางเข้าอาคารไปจนถึงพื้นที่สำนักงาน ทั้งยังครอบคลุมถึงปัจจัยด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้อาศัยโดยให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและปลอดภัยกว่าเดิม นอกจากนี้  ปัจจัยด้านความยั่งยืนยังเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญเพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับปรุงและรายงานผลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาคารนั้น ๆ มีต่อสิ่งแวดล้อม

ยิ่งไปกว่านี้ หลักเกณฑ์ส่วนฟังก์ชันสำหรับผู้ใช้งานยังครอบคลุมถึงปัจจัยด้านร้านค้าและและการบริการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงร้านค้า บริการ และข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้โดยตรง รวมถึงประเมินส่วนงานการบำรุงรักษาและการดำเนินงานเพื่อบริหารพื้นที่ใช้สอยและระบบต่าง ๆ ภายในตัวอาคารอย่างมีประอิทธิภาพ หลักเกณฑ์สุดท้ายคือการประเมินมาตรการด้านความปลอดภัยและมาตรการรักษาความปลอดภัยของตัวอาคารเพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้อาศัย

ในทางกลับกัน หลักเกณฑ์ด้านโครงสร้างเชิงเทคโนโลยี (TF) นั้นจะประเมินว่า เทคโนโลยี กระบวนการ และขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ ภายในตัวอาคารมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตมากน้อยเพียงใด ด้วยการตรวจสอบว่าระบบต่าง ๆ ของอาคารดำเนินงานร่วมกันอย่างไรและสื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน หลักเกณฑ์ส่วนนี้ยังพิจารณาว่า ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของตัวอาคารถูกเขียนและนำมาปฏิบัติอย่างเหมาะสมหรือไม่อีกด้วย และท้ายที่สุด หลักเกณฑ์ส่วนนี้จะตรวจสอบว่า ข้อมูลของตัวอาคารได้รับการรวบรวม จัดเก็บ และประมวลผลอย่างปลอดภัยแค่ไหน   หลักเกณฑ์ทั้ง UF และ TFนำมาซึ่งผลวิเคราะห์ที่ละเอียดถี่ถ้วนเกี่ยวกับความสามารถเชิงเทคโนโลยีอัจฉริยะของตัวอาคารเพื่อให้มั่นใจว่า อาคารที่ได้รับการประเมินนั้นไม่เพียงแค่ผ่านมาตรฐานในปัจจุบันแต่ยังพร้อมรองรับความก้าวหน้าในอนาคตอีกด้วย

การได้รับการรับรองมาตรฐาน SmartScore มีประโยชน์หลายประการ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นองค์ประกอบสำคัญซึ่งนำไปสู่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นข้อพิจารณาที่ธุรกิจที่ตระหนักถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ความสำคัญมากขึ้น  นอกเหนือจากนี้ อาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน SmartScore มักจะมอบความสะดวกสบายและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้อาศัยด้วยฟังก์ชันอย่างระบบควบคุมอุณหภูมิและระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศ สุดท้าย การได้รับการรับรองมาตรฐานอาคาร SmartScore ยังสามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดและความสามารถในการแข่งขันของตัวอาคารได้ผ่านการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของอาคาร 

ด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของซีบีอาร์อี ประเทศไทย การได้มาตรฐานอาคาร SmartScore เป็นเรื่องที่เป็นไปได้มากขึ้น ทีมงานของเราสามารถแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฟังก์ชันสำหรับผู้ใช้งานและโครงสร้างเชิงเทคโนโลยีของอาคารของคุณเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า อาคารของคุณไม่เพียงแต่ได้มาตรฐานในปัจจุบันแต่ยังพร้อมรับมือกับวิวัฒนาการใหม่ ๆ ในอนาคตด้วยเช่นกัน

ระบบรับรองมาตรฐานอาคารเขียว WiredScore และ SmartScore แตกต่างกันอย่างไร

แม้ระบบรับรองมาตรฐานอาคาร WiredScore และ SmartScore มีจุดประสงค์ร่วมกันบางประการ เช่น การพัฒนาประสบการณ์ผู้อาศัยผ่านเทคโนโลยีและความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แต่ทั้งสองระบบนี้ก็มีความแตกต่างกันในด้านของขอบเขตการประเมินผลและหลักการสำคัญ

ระบบรับรองมาตรฐานอาคาร WiredScore ให้ความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานเชิงดิจิทัลและความเชื่อมโยงเครือข่ายของตัวอาคารซึ่งนับเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในยุคดิจิทัลเช่นปัจจุบันเพื่อสร้างความมั่นใจว่า อาคารนั้น ๆ เพียบพร้อมต่อการตอบสนองและเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับความต้องการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในทุก ๆ วัน 
ในทางตรงกันข้าม ระบบรับรองมาตรฐานอาคาร SmartScore ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบโดยรวมของอาคารด้วยการวิเคราะห์ความสามารถในการผสมผสานเทคโนโลยีและความยั่งยืน โดยเริ่มตั้งแต่ปัจจัยอย่างความประหยัดพลังงานไปจนถึงสุขภาวะของผู้อาศัยเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและยั่งยืน

การรับรองมาตรฐานอาคาร WiredScore และ SmartScore สำหรับอาคารที่มีการใช้งานในปัจจุบัน (occupied) จะมีอายุสองปี ส่วนการรับรองมาตรฐานอาคารสำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจะมีอายุตั้งแต่หลังได้รับการรับรอง (ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงการออกแบบหรือก่อสร้าง) จนถึง 18 เดือนหลังจากที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อระยะเวลาการรับรองสิ้นสุดลง จะต้องต่ออายุการรับรองเพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ของคุณอยู่ในสถานะอาคารที่ผ่านการรับรองได้อย่างต่อเนื่อง ที่ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เราทุ่มเทเพื่อช่วยคุณจัดการกับความซับซ้อนของระบบรับรองมาตรฐานอาคารเหล่านี้เพื่อให้ได้มาซึ่งการรับรองมาตรฐานอาคารที่คุณต้องการ

บทสรุป

โดยสรุปแล้ว ระบบการรับรองมาตรฐานอาคารอย่าง WiredScore และ SmartScore มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางอนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยการสร้างมาตรฐานการเชื่อมโยงดิจิทัล การบูรณาการทางเทคโนโลยี และความยั่งยืน ระบบการรับรองมาตรฐานอาคารเหล่านี้ไม่เพียงแต่วางบรรทัดฐานให้แก่เจ้าของอาคารและผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ในยุคสมัยที่ความต้องการด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้อาศัยสามารถวางใจได้ว่า อาคารที่เขาอาศัยอยู่จะสามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของเขาได้อีกด้วยเช่นกัน

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและความยั่งยืนของซีบีอาร์อี ประเทศไทย พร้อมที่จะร่วมทางกับคุณในทุก ๆ ขั้นตอนเพื่อให้ได้มาซึ่งการรับรองมาตรฐานอาคารที่คุณต้องการ ด้วยการเลือกที่จะลงทุนเพื่ออนาคตของอสังหาริมทรัพย์ของคุณนั้น คุณไม่เพียงแต่ต้องการการรับรองมาตรฐานอาคารเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะมอบสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้งานอาคารทุก ๆ คน ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคตก็ตาม


หมายเหตุ: เนื้อหาบางส่วนของบทความนี้ถูกเขียนขึ้นโดย GenAI และได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมโดยผู้เขียน