5 สวนสาธารณะในเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดในโลก

ตามปกติเมื่อเรานึกถึงสิ่งที่ทำให้เมืองเป็นเมืองที่ดี สิ่งแรก ๆ ที่มักจะนึกถึงกัน คือ ร้านอาหาร สถานบันเทิงยามค่ำคืน หอศิลป์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหรือประวัติศาสตร์ แต่เราเชื่อว่า “สวนสาธารณะ” เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในเมืองใหญ่ระดับโลกที่หลายคนมักจะมองข้าม อย่างเช่น Central Park ที่สร้างนิยามให้กับความเป็น New York หรือ Hyde Park เองก็สร้างนิยามให้กับกรุงลอนดอนเช่นกัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซีบีอาร์อี ประเทศไทยฉลองครบรอบ 34 ปี ด้วยการปลูกต้นไม้ในสวนป่าเบญจกิตติ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ และแจกพันธุ์กล้าไม้หลายร้อยต้นเพื่อช่วยสนับสนุนโครงการปลูกต้นไม้ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ตั้งเป้าหมายปลูกต้นไม้นับล้านต้นทั่วเมือง สวนเบญจกิตติเป็นพื้นที่ใหม่ที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง มีภูมิทัศน์ป่าไม้ที่เป็นเอกลักษณ์และทางเดินลอยฟ้าที่ชวนให้เรานึกถึงสวนสาธารณะชั้นดีที่พบได้ในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก

1. ชองกเยชอนในกรุงโซล เกาหลีใต้

ชองกเยชอนเป็นสวนสาธารณะในเมืองที่สะดุดตามากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย เกือบ 20 ปีที่แล้วทางการของกรุงโซลได้รื้อทางหลวงยกระดับที่อยู่เหนือลำธาร และเปลี่ยนโฉมให้เป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถพักผ่อนหย่อนใจและเพลิดเพลินกับสายน้ำที่ไหลอย่างนุ่มนวลใจกลางมหานครที่เฟื่องฟูนี้ สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมากที่แสดงให้เห็นว่าการวางผังเมืองอย่างมีวิสัยทัศน์นั้นมีประโยชน์ต่อทุกคนได้อย่างไร

2. สวนตูเรียในวาเลนเซีย สเปน

เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นขั้วตรงกับข้ามกับสวนสาธารณะที่ชองกเยชอน เพราะสวนตูเรียในวาเลนเซียนั้นสร้างขึ้นโดยการ “ย้าย” แม่น้ำออกจากเมืองโดยถูกเปลี่ยนเส้นทางน้ำหลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1950 ซึ่งหมายความว่าเมืองนี้ปล่อยให้แม่น้ำเหือดแห้งแล้วเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ภายในสวน คุณจะได้พบกับทุกสิ่ง ตั้งแต่สวนสัตว์ของเมืองไบโอพาร์คที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ และสะพานในยุคกลาง ไปจนถึงครอบครัวที่พากันมาปิกนิกและเลนจักรยาน

3. เดอะ ไฮ ไลน์ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

เดอะ ไฮ ไลน์ เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจที่สุดของการรีไซเคิลโครงสร้างพื้นฐานแบบเก่าและเปลี่ยนโฉมให้กลายเป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์ สวยงาม และมีประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น สวนแห่งนี้สร้างขึ้นบนรางรถไฟยกระดับที่เลิกใช้แล้ว ปัจจุบันเดอะ ไฮ ไลน์ตั้งตระหง่านอย่างน่าภาคภูมิใจในฐานะสัญลักษณ์ของแมนฮัตตันที่ผู้คนหลงรัก ทำให้ชาวนิวยอร์กได้เพลิดเพลินกับสวนสวย ศิลปะและการออกแบบล้ำสมัยในพื้นที่ที่มีผู้คนเป็นศูนย์กลาง อยู่เหนือความโกลาหลและการจราจรของเมืองเบื้องล่าง

4. สแตนลีย์ พาร์ค ในแวนคูเวอร์ แคนาดา

แวนคูเวอร์มีชื่อเสียงเรื่องการมีธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และสวนสาธารณะสแตนลีย์ก็ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพอดี สวนสาธารณะแห่งนี้มีกิจกรรมมากมายให้ทุกคนในครอบครัวได้เพลิดเพลิน มีป่าทึบให้เดินสำรวจ ชายหาด ทะเลสาบ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สนามเทนนิส เส้นทางเดินและเลนจักรยานที่เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณและสิ่งมหัศจรรย์ทางวัฒนธรรม เช่น เสาโทเทม ซึ่งสร้างขึ้นโดยชาวพื้นเมือง สแตนลีย์ พาร์คเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนแวนคูเวอร์

5. สวนปาร์กเกวย์ในกรุงบาร์เซโลนา สเปน

ในรายชื่อสวนสาธารณะในเมืองที่โดดเด่นไม่เหมือนใครคงจะไม่ครบถ้วนถ้าไม่ได้รวมสวนปาร์กเกวย์ (Parc Güell) ที่ยากจะมีใครเทียบได้ในกรุงบาร์เซโลนาเอาไว้ด้วย นอกเหนือจากทัศนียภาพของเมืองที่สวยมากเป็นพิเศษเมื่อมองจากสวนสาธารณะแห่งนี้แล้ว ยังมีอาคารหลายแห่งที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของบาร์เซโลนาอย่าง Antoni Gaudí ซึ่งผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองนี้ คือ มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ผลงานที่เต็มไปด้วยสีสันและเหมือนฝันของเขาถูกเติมเต็มด้วยสวนสวยและมุมมองที่สร้างแรงบันดาลใจ ทำให้รู้สึกเหมือนสวนปาร์กเกวย์อยู่ในเทพนิยาย สวนแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงถึงความสำคัญสำหรับกรุงบาร์เซโลนา แต่ยังมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมโลกด้วย

สวนสาธารณะมักถูกนิยามว่าเป็น 'สวนขนาดใหญ่หรือพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ' แต่อย่างที่เราได้เห็นไปข้างต้น สวนสาธารณะเป็นได้มากกว่านั้น สวนสาธารณะในเมืองที่มีเอกลักษณ์เหล่านี้ช่วยทำให้เมืองมีความพิเศษมากขึ้น เป็นสถานที่ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว มีมุมให้พวกเขาถ่ายภาพและพูดถึง แต่ที่สำคัญที่สุด คือ สวนสาธารณะเหล่านี้ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองรู้สึกภาคภูมิใจในสถานที่ที่ช่วยให้เมืองของพวกเขามีความโดดเด่นขึ้นมา