บทความ | การสร้างความยืดหยุ่น
บทบาทของการอนุรักษ์พลังงานในอนาคตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
20 กรกฎาคม 2565

เมื่อสองสามทศวรรษก่อน การอนุรักษ์พลังงานเป็นเพียงข้อกังวลเล็กน้อยสำหรับธุรกิจส่วนใหญ่และโดยมากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในส่วนล่างสุด แต่เนื่องจากการประชุมเรื่องสภาพอากาศหลายครั้งในทศวรรษที่ 1980 และ 1990 สิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นประเด็นเร่งด่วนที่สุดปัญหาหนึ่งในยุคของเรา สิ่งนี้ทำให้การอนุรักษ์พลังงานเป็นเรื่องพิเศษที่เป็นทั้ง 'สิ่งที่ต้องทำ' และการตัดสินใจทางการเงินที่ดี ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทำไมเรื่องการอนุรักษ์พลังงานถึงเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์
การอนุรักษ์พลังงาน (เป็นไปได้ด้วยการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ) นั้นไม่ได้เติบโตเพราะบริษัทต่าง ๆ จู่ ๆ ตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการมีส่วนร่วมอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในโลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่พวกเขาจะมีข้อได้เปรียบทางการเงินที่ชัดเจนในการดำเนินนโยบายดังกล่าว ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานคิดเป็นประมาณ 40% ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับอาคารสำนักงานหลายแห่ง โดยที่ธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพและอุตสาหกรรมเป็นหนึ่งในผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ที่สุด และกลยุทธ์การประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพสามารถลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ถึง 20% มาตรฐานการรับรองอาคารสีเขียวก็น่าสนใจเช่นกัน แม้ว่ามาตรฐานการรับรองอย่าง LEED หรือ WELL ไม่ได้ช่วยประหยัดพลังงาน แต่ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นได้นำไปสู่สถานที่ทำงานที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาคารดังกล่าวมักเป็นที่ต้องการของผู้เช่า และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตเต็มที่ทั่วโลกได้แสดงให้เห็นว่าอาคารที่ผ่านการรับรองอาคารสีเขียวจะมีค่าเช่าที่สูงขึ้น และพนักงานของผู้เช่าจะมีสัดส่วนการลาออกลดลง ซึ่งนำไปสู่ผลประโยชน์ที่เห็นได้ชัดสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และผู้เช่า ซึ่งเป็นการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เจ้าของอาคารทุกคนต้องการลดต้นทุนระยะยาวและยืดอายุการใช้งานอาคาร แต่อสังหาริมทรัพย์ไม่ได้อยู่ในสุญญากาศ อาคารทุกหลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่มากขึ้นจากน้ำท่วมหรือการสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในแต่ละวัน และผลที่ตามมามักจะทำให้เบี้ยประกันและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น บริษัทที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะมีต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงในระยะยาว และการอนุรักษ์พลังงานทำให้อาคารมีความน่าสนใจสำหรับผู้เช่ามากขึ้น ส่งผลให้มีค่าเช่าสูงขึ้น นโยบายเพื่อการประหยัดพลังงานและกลยุทธ์การจัดการพลังงานอย่างตั้งใจยังมีส่วนช่วยในการปรับปรุงภาพลักษณ์ต่อสาธารณะอีกด้วย เรากำลังดำเนินชีวิตผ่านยุคที่อุดมไปด้วยข้อมูลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และสาธารณชนมีส่วนร่วมมากขึ้นกว่าที่เคยในหัวข้อต่าง ๆ เช่น สิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบของบริษัทที่มีต่อโลกที่เราทุกคนอยู่ร่วมกัน บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการประหยัดพลังงานไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทมีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดเท่านั้น แต่ยังช่วยให้บริษัทนั้นดึงดูดและรักษาทรัพยากรบุคคลผู้มีความสามารถไว้ได้มากขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อการตอบรับเชิงบวก โดยการจัดการพลังงานอย่างมีจริยธรรมเป็นแบบอย่างที่ดีต่อพนักงาน ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจดีขึ้น
อนาคตของการจัดการพลังงานจะเป็นอย่างไร
มีหลายแนวทางที่เจ้าของอาคารต้องการมุ่งเน้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการพลังงานอย่างสูงสุด ประการแรกเกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการตรวจสอบพลังงาน บริษัทต่าง ๆ เช่น CBRE สามารถช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ในการพัฒนากลยุทธ์ด้านพลังงานและความยั่งยืนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด ตลอดจนดูแลให้อาคารเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในด้านการอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรน้ำ และการลดของเสีย รวมถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
พลังงานหมุนเวียนเป็นองค์ประกอบหลักอีกอย่างหนึ่งของการจัดการพลังงาน และธุรกิจใด ๆ ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจังจะต้องมีการใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมด้วยเมื่อพูดถึงเป้าหมายในการลดคาร์บอน เราได้ยินมามากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าความปกติใหม่ (new normal) นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 แต่ความปกติใหม่สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาจเป็นการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งหมายถึงการดำเนินกิจกรรมที่ไม่ปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ ความคาดหวังดังกล่าวทำให้มองเห็นการเติบโตของการใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เหล็กรีไซเคิล และแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป
เทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะเป็นอีกหนึ่งแนวทาง ข้อเท็จจริงที่ว่าช่องว่างระหว่างค่าเช่าของอาคารสีเขียวที่ดีที่สุดและ 'อาคารสีน้ำตาล' ที่ล้าสมัยมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และความต้องการจากผู้เช่า (และสาธารณชนในวงกว้าง) ที่ต้องการตอบโจทย์ด้านสิ่งที่แวดล้อมของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ที่ การออกแบบ ติดตั้ง จัดการ และการแก้ปัญหาอย่างบูรณาการที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงานและความยั่งยืนของอาคารเป็นสิ่งสำคัญ และเผยให้เห็นว่าเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนที่ประสบความสำเร็จเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร เทคโนโลยีใหม่ยังช่วยให้การวิเคราะห์ความยั่งยืนเป็นไปได้ การจัดการพลังงานและการตรวจสอบพลังงานโดยใช้ข้อมูลดิบ (เช่น จากบิลค่าสาธารณูปโภค) แปลงเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงาน
ท้ายที่สุดคือการตรวจสอบการใช้พลังงาน สิ่งเหล่านี้ถูกบังคับใช้โดยกฎหมายและครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ เช่น การจัดการพลังงาน และคำแนะนำด้านการประหยัดพลังงาน เจ้าของอาคารจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและรับรองการรายงานด้านพลังงานสำหรับนำส่งต่อกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) โดยใช้วิศวกรพลังงานที่ได้รับใบอนุญาต ในอนาคต ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบจะยังคงเข้มงวดขึ้นดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมพร้อม
ก้าวแรกในการอนุรักษ์พลังงานทำอย่างไร
ก้าวแรกของธุรกิจในการอนุรักษ์พลังงานควรเริ่มต้นด้วยการสร้างแผนงานที่ระบุโอกาสด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในการเพิ่มประสิทธิภาพ ขั้นตอนต่อไปจะเกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามแผนงานโดยดำเนินการปรับปรุงกระบวนการและมาตรการประหยัดพลังงานต่าง ๆ สุดท้าย การรายงานที่ถูกต้องหมายความว่าธุรกิจสามารถปรับตัวให้เข้ากับเกณฑ์มาตรฐานของอุตสาหกรรมได้ เช่น Sustainability Benchmarking (GRESB), Global Reporting Initiative (GRI), ESG Acquisition Due Diligence, Green Lease Advisory และมาตรฐานการรับรองอาคารสีเขียว (TREES, LEED, Green Mark)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือเริ่มต้นวางแนวทางเพื่อความยั่งยืนสำหรับธุรกิจของคุณ ติดต่อ CBRE