บล็อก

มูลค่าของบริการให้คำปรึกษาด้าน ESG ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่

ภาพรวมของความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจตามหลัก สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

20 เมษายน 2566

value-of-esg-consulting-972x1296

ในขณะที่โลกให้การยอมรับในการดำเนินการตามหลักความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากขึ้นกำลังมองหาที่ปรึกษาด้าน ESG เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการของพวกเขามีการดำเนินการที่สอดคล้องตามค่านิยมดังกล่าว  ESG ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับการพิจารณาร่วมกันมากขึ้นสำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้บริโภค โดยอ้างอิงถึงหลักการ 3 ประการของการพัฒนาสู่ความยั่งยืน คือ ความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม ความมุ่งมั่นด้านสังคม และความมุ่งมั่นด้านบรรษัทภิบาล ปัจจัยเหล่านี้และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของเจ้าของธุรกิจ ชื่อเสียง และความสามารถในการดึงดูดและรักษาผู้เช่า  บริการให้คำปรึกษาด้าน ESG ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยในการนำทางแนวทางที่กำลังเติบโตในการสร้างโครงการที่พักอาศัยและโครงการเชิงพาณิชย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ESG คืออะไร

 
ESG หมายถึงกรอบเชิงกลยุทธ์สำหรับการระบุ ประเมิน และจัดการกับเป้าหมายและกิจกรรมขององค์กร ตั้งแต่ความมุ่งมั่นของบริษัทต่อความยั่งยืน ความหลากหลาย และการอยู่ร่วมกัน ไปจนถึงจรรยาบรรณโดยรวมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติขององค์กร เมื่อพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ กรอบ ESG สามารถใช้เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดขึ้นจากทั้งสภาวะตลาดและสภาวะที่ไม่ใช่ตลาด ตลอดจนเพื่อให้แน่ใจว่ามีแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ในอนาคต การรวม ESG เข้ากับแนวปฏิบัติด้านอสังหาริมทรัพย์อาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่บริการให้คำปรึกษาด้าน ESG สามารถให้คำแนะนำและความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในการดำเนินกลยุทธ์ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นหลักเกณฑ์แรกของ ESG เกี่ยวข้องกับการลดผลกระทบของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน การใช้เทคนิคอาคารสีเขียว และการส่งเสริมการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน ด้วยเจ้าของธุรกิจจำนวนมากเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการดำเนินการตั้งแต่เนิ่น ๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มากกว่าคำนึงถึงแต่ต้นทุน

ในอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสังเกตของความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในตลาดอสังหาริมทรัพย์คือแนวคิดของการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งการพัฒนาต่าง ๆ สามารถชดเชยการปล่อยคาร์บอนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผลิตพลังงานหมุนเวียนมากเท่าที่พวกเขาใช้ โดยใช้การผสมผสานระหว่างการออกแบบที่ประหยัดพลังงานและระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ ไม่น่าแปลกใจที่การพัฒนาคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น และช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ แนวคิดนี้กำลังได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากรัฐบาล นักลงทุน และผู้บริโภค ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีความรับผิดชอบสำหรับนักพัฒนาและเจ้าของ ซึ่งยังสามารถได้รับประโยชน์ทางการเงินจากต้นทุนด้านพลังงานที่ลดลง มูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น และความดึงดูดใจของตลาดที่เพิ่มขึ้น

ความมุ่งมั่นต่อสังคม คือหลักเกณฑ์ที่สอง การตรวจสอบผลกระทบของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีต่อชุมชน ความยั่งยืนทางสังคมสามารถมีได้หลายรูปแบบ โดยเน้นประเด็นต่าง ๆ เช่น ความพร้อมของที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง สถานที่ทำงานและชุมชนที่ครอบคลุมและหลากหลาย และการสนับสนุนจากธุรกิจในท้องถิ่น  นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยสุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เช่า รวมถึงสิ่งต่าง ๆ เช่น การรวมพื้นที่สีเขียวที่ใช้งานได้ในโครงการที่พักอาศัยและพาณิชยกรรม การเข้าถึงอาคารแบบไร้การสัมผัส และระบบระบายอากาศและกรองอากาศที่ดีขึ้น เป็นต้น การขอการรับรองด้านอาคารเขียวบางฉบับ เช่น WELL และ Fitwel จะมุ่งเน้นไปที่หลักทางสังคมของ ESG เกือบทั้งหมด การให้คำปรึกษาด้าน ESG สามารถช่วยธุรกิจในการนำทางความซับซ้อนของหลักเกณฑ์นี้ และระบุวิธีการปรับปรุงความพยายามด้านความยั่งยืนทางสังคมของพวกเขาได้

บรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์สุดท้าย จะให้ความสำคัญกับการจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน โดยสร้างความมั่นใจว่าบริษัทต่าง ๆ ปฏิบัติตนอย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบ โดยรักษาผลประโยชน์ทางการค้าของตนให้สมดุลกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม การปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและสร้างความมั่นใจว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสามารถช่วยสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับทุกคนได้   ในการพัฒนาบางประเภท ทั้งเจ้าของและผู้ครอบครองได้เริ่มให้ความสำคัญกับการจัดการอย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส เช่นเดียวกับวัฒนธรรมร่วมกันที่รับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพมีความสำคัญต่อการตระหนักถึงศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืนอย่างเต็มที่

เจ้าของธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าหลักเกณฑ์ทั้งสามของ ESG ถูกรวมเข้ากับการดำเนินงานของพวกเขาอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้บริการให้คำปรึกษาด้าน ESG ซึ่งอาจรวมถึงการประเมินและลดความเสี่ยงและโอกาส การใช้เทคนิคอาคารเขียว การส่งเสริมการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน การจัดการที่มีจริยธรรมและโปร่งใส และสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมด   ที่ปรึกษา ESG สามารถช่วยให้มั่นใจว่าโครงการได้รับการดูแลด้วยความเอาใจใส่และมีเป้าหมายในการเพิ่มผลประโยชน์สูงสุดจากกลยุทธ์ ESG

value-of-esg-consulting-720x480

ทำไม ESG จึงมีความสำคัญในธุกิจอสังหาริมทรัพย์

 
มีปัจจัยบางประการที่มีส่วนทำให้ ESG มีความสำคัญในตลาดอสังหาริมทรัพย์

เหตุผลสำคัญประการหนึ่งคือโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนสามารถส่งผลโดยตรงต่อ ROI ของการพัฒนา ตัวอย่างเช่น การรวมคุณลักษณะด้านความยั่งยืน เช่น ระบบประหยัดพลังงาน รวมถึงคุณลักษณะที่ใช้ในการบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และการใช้มาตรการอนุรักษ์น้ำสามารถนำไปสู่การลดต้นทุนการดำเนินงานและมูลค่าทรัพย์สินที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ได้อัตราค่าเช่าที่เหมาะสมมากขึ้นสำหรับผู้เช่าที่มีศักยภาพและผู้เช่าเดิม นอกจากนี้ นักลงทุนจำนวนมากกำลังพิจารณาปัจจัย ESG เมื่อทำการตัดสินใจลงทุน และอาคารที่ได้คะแนนดีในตัวชี้วัด ESG อาจดึงดูดนักลงทุนเหล่านี้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความตระหนักเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความสำคัญของ ESG ในฐานะปัจจัยการพัฒนามีมากขึ้น ความต้องการที่ปรึกษาด้าน ESG จึงเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งพยายามช่วยเหลือนักลงทุนและเจ้าของธุรกิจในการทำโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ ESG อยู่ในระดับแนวหน้าในใจของเจ้าของธุรกิจคือสามารถช่วยสร้างชื่อเสียงในเชิงบวกได้ การพัฒนาอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมสามารถเพิ่มชื่อเสียงของเจ้าของธุรกิจในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถดึงดูดธุรกิจและการลงทุนใหม่ ๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมงานปฏิบัติตาม นอกจากนี้ ผู้เช่าและผู้ซื้อที่กำลังมองหาอาคารที่ได้รับการรับรองว่ามีความยั่งยืนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และการได้รับการรับรองสามารถช่วยสร้างความแตกต่างให้กับอาคารและช่วยเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นแก่ผู้เช่าที่มีศักยภาพ

การรับรองด้านความยั่งยืน เช่น LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) และ WELL Building Standard เป็นข้อพิจารณาที่สำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจ นักลงทุน และผู้เช่า การรับรองเหล่านี้เป็นกรอบสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน และสามารถช่วยให้แน่ใจว่าอาคารได้รับการออกแบบและดำเนินการในลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ อาคารที่ได้รับการรับรองอาคารเขียวอาจได้รับแรงจูงใจทางการเงิน ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้ง

LEED เป็นโปรแกรมการรับรองอาคารเขียวที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ซึ่งจะประเมินประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของอาคาร กำหนดกรอบสำหรับการออกแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานอาคารที่ยั่งยืน โดยเน้นที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การลดการใช้น้ำ การเลือกใช้วัสดุ คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร รวมถึงนวัตกรรมการออกแบบ      การลดต้นทุนการดำเนินงาน การปรับปรุงความพึงพอใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินคือประโยชน์ทั้งหมดของการได้รับการรับรอง LEED ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสี่ระดับ (Certified, Silver, Gold และ Platinum) ตามจำนวนคะแนนที่โครงการสามารถผ่านการรับรองได้

WELL เป็นโปรแกรมการรับรองตามผลการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นไปที่สุขภาพและสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยในอาคาร ซึ่งสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับหลักเกณฑ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของ ESG โดย WELL จะพิจารณาจากประสิทธิภาพของอาคาร 7 ประเภท ได้แก่ คุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ แสงและเสียง การบำรุง ความสะดวกสบาย จิตใจ และสมรรถภาพทางกาย  อาคารที่ได้รับการรับรอง WELL จะถือว่าเป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ในขณะเดียวกันก็สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพให้กับผู้อยู่อาศัย สิ่งนี้สามารถส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจของพนักงานเพิ่มขึ้น ตลอดจนประสิทธิภาพของอาคารและมูลค่าทรัพย์สินที่มากขึ้น

ด้วยการให้ความรู้และทิศทางในการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างแนวปฏิบัติ การให้คำปรึกษาด้าน ESG สามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือธุรกิจในการได้รับการรับรองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ปรึกษาด้าน ESG สามารถให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การเลือกวัสดุ การอนุรักษ์น้ำ คุณภาพอากาศภายในอาคาร และปัจจัยหลักอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของอาคาร พวกเขายังสามารถช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เข้าใจเกณฑ์และระบบการให้คะแนนที่ใช้ในการรับรองอาคารเขียว และทำงานร่วมกับพวกเขาเพื่อพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพคะแนนของโครงการ

ข้อดีอีกประการของการนำ ESG ไปใช้คือมีบทบาทเชิงบวกในการรักษาผู้เช่า เมื่อความรู้เรื่องความยั่งยืนเพิ่มขึ้น ผู้เช่าก็มองหาอาคารที่มีความยั่งยืนและดีต่อสุขภาพมากขึ้น และอาคารที่ทำคะแนนได้ดีในเกณฑ์ ESG อาจน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทในภาคเทคโนโลยีและการเงิน ซึ่งชื่อเสียงด้าน ESG ที่แข็งแกร่งกำลังกลายเป็นส่วนสำคัญของเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างรวดเร็ว เจ้าของที่ดินไม่เพียงแต่สามารถดึงดูดและรักษาผู้เช่าไว้ได้ด้วยการจัดลำดับความสำคัญของ ESG และรวมแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงานของพวกเขา แต่พวกเขายังสามารถปรับปรุงชื่อเสียงในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบและมีความคิดก้าวหน้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ อาคารที่ออกแบบโดยคำนึงถึง ESG อาจมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า ซึ่งสามารถช่วยรักษาค่าเช่าให้ต่ำและทำให้อาคารมีราคาเช่าที่ผู้เช่ายอมรับได้

การให้คำปรึกษาด้าน ESG สามารถช่วยได้อย่างไร

 
เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยมากมายในการปรับใช้หรือเปลี่ยนไปใช้แนวปฏิบัติ ESG คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้แน่ใจว่ากระบวนการจะราบรื่นขึ้น   การให้คำปรึกษาด้าน ESG สามารถให้การสนับสนุนที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่เจ้าของธุรกิจและนักลงทุนเนื่องจากพวกเขาสำรวจความซับซ้อนของความยั่งยืน และรับรองว่าโครงการต่าง ๆ ของพวกเขาตรงตามมาตรฐานสูงสุดสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอก   ที่ปรึกษาด้าน ESG สามารถช่วยเหลือนักลงทุนในการระบุโอกาสสำหรับเทคนิคอาคารเขียว การแก้ไขปัญหาด้านพลังงานหมุนเวียน และการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน เพื่อให้นักลงทุนลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่ปรับปรุงแนวปฏิบัติด้านสังคมและบรรษัทภิบาล

การให้คำปรึกษาด้าน ESG นอกจากจะให้คำแนะนำแล้ว ยังช่วยให้นักลงทุนโดดเด่นในตลาดที่หนาแน่นนี้ ในขณะที่ความต้องการในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้น ESG จะยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการพิจารณาสำหรับอุตสาหกรรมนี้   อสังหาริมทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับหลักการ ESG และโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมักจะมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า การรักษาผู้เช่าที่ดีกว่า และมูลค่าการขายต่อที่สูงขึ้น ส่งผลให้ ROI สูงขึ้น ปัจจัย ESG ยังทำให้การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่จะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าสำหรับความสำเร็จในระยะยาว การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีโปรไฟล์ ESG ที่แข็งแกร่งและโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนสามารถให้ผลตอบแทนทางการเงินและผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมร่วมกัน โดยการจัดลำดับความสำคัญของ ESG นักลงทุนสามารถสร้างความแตกต่าง เพิ่มความสามารถในการทำกำไร ดึงดูด และรักษานักลงทุนและผู้เช่า

ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG ของซีบีอาร์อีวันนี้ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เราสามารถช่วยโครงการของคุณได้